ข้อควรปฏิบัติในการป้องกันรถฟอร์คลิฟท์จากภาวะอุทกภัย ข้อควรปฏิบัติในการป้องกันรถฟอร์คลิฟท์จากภาวะอุทกภัย

           เนื่องจากขณะนี้เกิดภาวะอุทกภัยในหลายพื้นที่ ทางบริษัทฯ มีความเป็นห่วงผู้ประกอบการที่ใช้รถฟอร์คลิฟท์เป็นเครื่องมือหนึ่งในการประกอบกิจการ จึงขอแนะนำข้อควรปฏิบัติในการป้องกันรถฟอร์คลิฟท์ทั้งประเภทเครื่องยนต์และไฟฟ้า เพื่อให้ผู้ประกอบการได้เตรียมการรับมือเพื่อลดความเสี่ยงในการเสียหายของรถฟอร์คลิฟท์และลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงหลังน้ำลด เราขอให้กำลังใจผู้ประกอบการที่ประสบภาวะอุทกภัยทุกท่านและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์แก่ท่าน
 
ข้อควรปฏิบัติในการป้องกันรถฟอร์คลิฟท์จากภาวะอุทกภัย
 
ประเภทรถฟอร์คลิฟท์เครื่องยนต์
ก่อนประสบอุทกภัย
1. พยายามนำรถฟอร์คลิฟท์เครื่องยนต์ ขึ้นสู่ที่สูงให้มากที่สุด
2. ถอดแบตเตอรี่เก็บไว้ในที่ปลอดภัยจากน้ำ เพื่อป้องกันการลัดวงจรของระบบไฟฟ้า และไม่ให้เกิดความ  
   เสียหายแก่ตัวแบตเตอรี่ แต่ถ้าไม่สามารถถอดแบตเตอรี่เก็บไว้ในที่ปลอดภัยจากน้ำได้ ให้ทำการถอดขั้ว  
   แบตเตอรี่และพันด้วยเทปพันสายไฟ
หลังผ่านเหตุการณ์อุทกภัย
1. หลังจากรถฟอร์คลิฟท์ถูกน้ำท่วมมาห้ามสตาร์ทเครื่องยนต์ก่อนที่จะได้รับการตรวจเช็คและแก้ไขจากทาง 
    ช่างผู้ชำนาญการ
2. ให้นำรถฟอร์คลิฟท์เครื่องยนต์มาจอดในพื้นที่ที่มีแสงแดดหรืออากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อไล่ความชื้นและ 
    น้ำออกจากระบบ
3. หากต้องการจะใช้งานรถฟอร์คลิฟท์ทันทีหลังจากน้ำลด ต้องมั่นใจว่าอุปกรณ์ทางด้านไฟฟ้าแห้งสนิท     
   รวมถึงระบบเบรกด้วย
4. ต้องเปลี่ยนถ่ายของเหลวทั้งระบบก่อน นำรถฟอร์คลิฟท์เครื่องยนต์กลับมาใช้งานตามปกติ
5. หากไม่มีความเชี่ยวชาญ ให้ติดต่อช่างผู้ชำนาญการเพื่อทำการตรวจเช็ครถฟอร์คลิฟท์เครื่องยนต์ทั้งระบบ
 
ประเภทรถฟอร์คลิฟท์ไฟฟ้า
ก่อนประสบอุทกภัย
1. พยายามนำรถฟอร์คลิฟท์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ ตู้ชาร์จ ขึ้นสู่ที่สูงให้มากที่สุด
2. ดึงปลั๊กแบตเตอรี่ ออกจากตัวรถฟอร์คลิฟท์ไฟฟ้า
3. เมื่อไม่สามารถนำรถฟอร์คลิฟท์ไฟฟ้าขึ้นที่สูงได้ ให้ติดต่อช่างผู้ชำนาญการเพื่อถอดอุปกรณ์ตัวสำคัญๆ 
   และแบตเตอรี่ เก็บไว้ในที่ปลอดภัย
หลังผ่านเหตุการณ์อุทกภัย
1. หลังจากรถฟอร์คลิฟท์ถูกน้ำท่วมมาอย่าเสียบปลั๊กแบตเตอรี่เข้ากับตัวรถฟอร์คลิฟท์ไฟฟ้าเพราะจะทำให้  
    อุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหายได้
2. ให้นำรถฟอร์คลิฟท์ไฟฟ้ามาจอดในพื้นที่ที่มีแสงแดดหรืออากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อไล่ความชื้นและน้ำ 
    ออกจากระบบ
3. หากต้องการจะใช้งานรถฟอร์คลิฟท์ทันทีหลังจากน้ำลด ต้องมั่นใจว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดแห้งสนิท
    รวมถึงระบบเบรกด้วย
4.ในกรณีที่ระดับน้ำสูงไม่มาก ไม่ท่วมมอเตอร์ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ควรตรวจเช็คระบบเบรก
   ก่อนนำไปใช้งาน
5. ถ้าแบตเตอรี่ถูกน้ำท่วมจะต้องทำการปรับสภาพแบตเตอรี่ก่อนนำไปใช้งาน
6. ต้องเปลี่ยนถ่ายของเหลวทั้งระบบก่อน นำรถฟอร์คลิฟท์ไฟฟ้ากลับมาใช้งานตามปกติ
7. หากไม่มีความเชี่ยวชาญ ให้ติดต่อช่างผู้ชำนาญการเพื่อทำการตรวจเช็ครถฟอร์คลิฟท์ไฟฟ้าทั้งระบบ
 
ด้วยความปรารถนาดีจากฝ่ายบริการรถยก
 
เบอร์โทรติดต่อ ฝ่ายบริการรถยกสำนักงานใหญ่ 02-740-1500-15 ต่อ 152
ฝ่ายบริการรถยกสาขานวนคร 02-902-0358 หรือ 085-485-5690
ฝ่ายบริการรถยกสาขาหนองแขม 02-809-6607 หรือ 085-485-5691
ฝ่ายบริการรถยกสาขาระยอง 038-822-755
ฝ่ายบริการรถยกสาขาหาดใหญ่ 074-457-847
 
           เนื่องจากขณะนี้เกิดภาวะอุทกภัยในหลายพื้นที่ ทางบริษัทฯ มีความเป็นห่วงผู้ประกอบการที่ใช้รถฟอร์คลิฟท์เป็นเครื่องมือหนึ่งในการประกอบกิจการ จึงขอแนะนำข้อควรปฏิบัติในการป้องกันรถฟอร์คลิฟท์ทั้งประเภทเครื่องยนต์และไฟฟ้า เพื่อให้ผู้ประกอบการได้เตรียมการรับมือเพื่อลดความเสี่ยงในการเสียหายของรถฟอร์คลิฟท์และลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงหลังน้ำลด เราขอให้กำลังใจผู้ประกอบการที่ประสบภาวะอุทกภัยทุกท่านและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์แก่ท่าน
 
ข้อควรปฏิบัติในการป้องกันรถฟอร์คลิฟท์จากภาวะอุทกภัย
 
ประเภทรถฟอร์คลิฟท์เครื่องยนต์
ก่อนประสบอุทกภัย
1. พยายามนำรถฟอร์คลิฟท์เครื่องยนต์ ขึ้นสู่ที่สูงให้มากที่สุด
2. ถอดแบตเตอรี่เก็บไว้ในที่ปลอดภัยจากน้ำ เพื่อป้องกันการลัดวงจรของระบบไฟฟ้า และไม่ให้เกิดความ  
   เสียหายแก่ตัวแบตเตอรี่ แต่ถ้าไม่สามารถถอดแบตเตอรี่เก็บไว้ในที่ปลอดภัยจากน้ำได้ ให้ทำการถอดขั้ว  
   แบตเตอรี่และพันด้วยเทปพันสายไฟ
หลังผ่านเหตุการณ์อุทกภัย
1. หลังจากรถฟอร์คลิฟท์ถูกน้ำท่วมมาห้ามสตาร์ทเครื่องยนต์ก่อนที่จะได้รับการตรวจเช็คและแก้ไขจากทาง 
    ช่างผู้ชำนาญการ
2. ให้นำรถฟอร์คลิฟท์เครื่องยนต์มาจอดในพื้นที่ที่มีแสงแดดหรืออากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อไล่ความชื้นและ 
    น้ำออกจากระบบ
3. หากต้องการจะใช้งานรถฟอร์คลิฟท์ทันทีหลังจากน้ำลด ต้องมั่นใจว่าอุปกรณ์ทางด้านไฟฟ้าแห้งสนิท     
   รวมถึงระบบเบรกด้วย
4. ต้องเปลี่ยนถ่ายของเหลวทั้งระบบก่อน นำรถฟอร์คลิฟท์เครื่องยนต์กลับมาใช้งานตามปกติ
5. หากไม่มีความเชี่ยวชาญ ให้ติดต่อช่างผู้ชำนาญการเพื่อทำการตรวจเช็ครถฟอร์คลิฟท์เครื่องยนต์ทั้งระบบ
 
ประเภทรถฟอร์คลิฟท์ไฟฟ้า
ก่อนประสบอุทกภัย
1. พยายามนำรถฟอร์คลิฟท์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ ตู้ชาร์จ ขึ้นสู่ที่สูงให้มากที่สุด
2. ดึงปลั๊กแบตเตอรี่ ออกจากตัวรถฟอร์คลิฟท์ไฟฟ้า
3. เมื่อไม่สามารถนำรถฟอร์คลิฟท์ไฟฟ้าขึ้นที่สูงได้ ให้ติดต่อช่างผู้ชำนาญการเพื่อถอดอุปกรณ์ตัวสำคัญๆ 
   และแบตเตอรี่ เก็บไว้ในที่ปลอดภัย
หลังผ่านเหตุการณ์อุทกภัย
1. หลังจากรถฟอร์คลิฟท์ถูกน้ำท่วมมาอย่าเสียบปลั๊กแบตเตอรี่เข้ากับตัวรถฟอร์คลิฟท์ไฟฟ้าเพราะจะทำให้  
    อุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหายได้
2. ให้นำรถฟอร์คลิฟท์ไฟฟ้ามาจอดในพื้นที่ที่มีแสงแดดหรืออากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อไล่ความชื้นและน้ำ 
    ออกจากระบบ
3. หากต้องการจะใช้งานรถฟอร์คลิฟท์ทันทีหลังจากน้ำลด ต้องมั่นใจว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดแห้งสนิท
    รวมถึงระบบเบรกด้วย
4.ในกรณีที่ระดับน้ำสูงไม่มาก ไม่ท่วมมอเตอร์ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ควรตรวจเช็คระบบเบรก
   ก่อนนำไปใช้งาน
5. ถ้าแบตเตอรี่ถูกน้ำท่วมจะต้องทำการปรับสภาพแบตเตอรี่ก่อนนำไปใช้งาน
6. ต้องเปลี่ยนถ่ายของเหลวทั้งระบบก่อน นำรถฟอร์คลิฟท์ไฟฟ้ากลับมาใช้งานตามปกติ
7. หากไม่มีความเชี่ยวชาญ ให้ติดต่อช่างผู้ชำนาญการเพื่อทำการตรวจเช็ครถฟอร์คลิฟท์ไฟฟ้าทั้งระบบ
 
ด้วยความปรารถนาดีจากฝ่ายบริการรถยก
 
เบอร์โทรติดต่อ ฝ่ายบริการรถยกสำนักงานใหญ่ 02-740-1500-15 ต่อ 152
ฝ่ายบริการรถยกสาขานวนคร 02-902-0358 หรือ 085-485-5690
ฝ่ายบริการรถยกสาขาหนองแขม 02-809-6607 หรือ 085-485-5691
ฝ่ายบริการรถยกสาขาระยอง 038-822-755
ฝ่ายบริการรถยกสาขาหาดใหญ่ 074-457-847